เบอร์สวยกับเบอร์มงคลต่างกันอย่างไร ทำไมธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องใช้เบอร์สวย เบอร์มงคล
เราคงจะเคยเห็นป้ายโฆษณาตามทางด่วนเวลาขับรถผ่าน หรือแม้กระทั่งตามสื่อโซเชียลต่างๆ ที่ใช้ในการโปรโมทสินค้า และมักจะทิ้งท้ายเบอร์ติดต่อเป็นเลขสวยๆ จำง่ายๆ มีเลขไม่กี่ตัว และเชื่อว่า คนรอบๆ ตัวคุณต้องมีอย่างน้อยๆ 1-2 คน ที่เปลี่ยนเบอร์มือถือเป็นเบอร์มงคล เพราะเชื่อว่า พลังงานจากเลขที่ดีจะนำมาซึ่งสิ่งดี ๆ
และเคยสังเกตกันหรือไม่ว่า ตัวเลขมักจะอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม มักจะมีเรื่องตัวเลขมาเกี่ยวข้อง เช่น วัน เดือน ปี บัตรประชาชน ทะเบียนรถ ฯลฯ พลังของตัวเลขจึงอยู่รอบๆ ตัวเรา ยิ่งเบอร์มือถือเป็นสิ่งที่เราใช้ทุกวันยิ่งมีความสำคัญมากๆ ทั้งในเรื่องธุรกิจการค้า และเรื่องชีวิตส่วนตัว เรามาดูความสำคัญของตัวเลขกันว่า จะมาช่วยเสริมพลังในการทำธุรกิจได้อย่างไร
เบอร์สวยกับเบอร์มงคลต่างกันอย่างไร
เบอร์สวย
จะมีหลายแบบ ทั้งเรียง ตอง โฟร์ ไฟว์ สลับ และมีหลากหลายราคาให้เลือก ส่วนใหญ่นิยมตัวเลขที่จดจำได้ง่ายๆ เบอร์สวยส่วนใหญ่จะเป็นเลขพิเศษ สะดุดตา และหายาก ทำให้มีราคาสูง วิธีการ เลือกดูเบอร์สวย ส่วนใหญ่จะแล้วแต่ความพอใจแต่ละบุคคล องค์กร เป็นสำคัญ
เบอร์มงคล
จะเป็นเบอร์ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับตัวเลขผสานความเชื่อเรื่อง โชคชะตา เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยใช้ความรู้ศาสตร์ตัวเลขมาใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณา โดยมีหลากหลายศาสตร์ หลายตำรา แตกต่างกันออกไป โดยหลักๆจะมุ่งเน้นไปที่แต่ละความหมายของเลขแต่ละเลขเดี่ยว เลขคู่มงคลสองหลัก หรือกลุ่มตัวเลข 3-4 หลัก ส่งผลต่อความหมายโดยรวมต่อหมายเลขนั้นเช่น เบอร์มงคลด้านความรัก เบอร์มงคลด้านความร่ำรวย สุขภาพ เป็นต้น
เบอร์สวยและเบอร์มงคล ส่งผลต่อธุรกิจในด้านใดบ้าง
เบอร์สวย
ราคาของเบอร์สวยจะขึ้นตามความสวยของชุดตัวเลข และหากเป็นตัวเลขที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งราคาของเบอร์สวยนั้นมีราคาตั้งแต่หลักร้อยบาท ไปจนถึงหลักล้านบาทก็มี ตัวอย่างเบอร์สวย เช่น
- เลขตอง โฟร์ ไฟว์ ซิก เซเว่น เป็นเบอร์สวยมาตรฐานที่นิยมมานาน
ยิ่งเลขซ้ำมากยิ่งราคาสูง โดยมาก เลขที่นิยมเช่น 9999 8888 จะมีราคาสูงกว่าเลขอื่น ส่วนใหญ่จะนิยมดูจากเลขหลักท้าย - เลขเบิ้ล เลขหาม
เลขเบิ้ลหรือเลขซ้ำกัน เช่น 22, 44, 55, 66, 99 ตัวอย่าง 0AB-XXX-4455
เลขหาม เช่น 2442 6556 9559 8998 - เลขสลับ
เลขสลับที่นิยมใช้กันมาก คือ เลขสลับ 4 ตัวท้าย เช่น XYXY ส่วนเลขสลับ 4 ตัวท้ายที่คนนิยมเล่นกันและจะมีราคาสูงคือ 5656 6565 9595 5959 8989 9898 2424 4545 หากมีเลขสับในชุดมาก หกหลัก เจ็ดหลัก แปดหลัก ราคาจะยิ่งสูงขึ้นมากเช่น 656565 8989898 595959595 - เลขเรียง
กลุ่มเลขเรียงกันสวยงาม ไม่ว่าจะเรียงขึ้นหรือเรียงลง ABCD หรือ DCBA หากเบอร์นั้นมีการเรียงกันยิ่งมากหลัก ยิ่งหายากและราคาก็จะสูงตามไปด้วย เช่น 0AB-XXX-1234 หรือ 0AB-123 4567 เป็นต้น
กลุ่มเลข 2 หลักแท้ ( 2 เลขใน 8 หลักท้าย) 2 หลักเทียม( 2เลขใน 7 หลักท้าย) จะมีแค่เลข 2 ตัวในหมายเลขโทรศัพท์ นับจาก 7 หลัก 8 หลักท้ายเช่น 0XY 0090900 หรือ 0X 00090900 จะมีแค่เลข 0 กับ 9 ในเบอร์ - เลขพ้องเสียง
เลขพ้องเสียง อ่านง่าย จำง่าย เช่น 0X 5000 5000 เห็นครั้งเดียว อ่านได้ว่า ห้าพัน ห้าพัน หรือ 0XX 500 5000 อ่านว่า ห้าร้อย ห้าพัน
เลขพ้องเสียงที่อ่านแล้วใกล้เคียงคำศัพท์ที่มีความหมายดี เช่น
- เลข 6 ภาษาจีนอ่านออกเสียงว่า ลิ่ว ซึ่งถ้าอ่านออกเสียงพ้องว่า หลิว จะมีความหมายว่า ไหลลื่น
- เลข 8 อ่านพ้องเสียงว่า ฟะ แปลว่า รุ่งเรือง ร่ำรวย
- เลข 9 อ่านพ้องเสียงว่า จิ่ว แปลว่า ยืนนาน
- เลขพิเศษอื่นๆ เฉพาะกลุ่ม
กลุ่มตัวเลขพิเศษ เช่น ปี พ.ศ. รุ่นรถยนต์ เลขปืน หรือ สูตรคูณ 0AB-818-8216
ประโยชน์ของเบอร์สวยต่อธุรกิจ
- จดจำง่าย
เพียงมองผ่านตาก็สามารถจำได้ เช่น 0AB-AAA-BBBB - เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี มีความน่าเชื่อถือ
เบอร์สวยมากๆมักจะมีราคาสูง ซึ่งต้องมีการซื้อ หรือประมูลเพื่อให้ได้มา ทำให้ผู้บริโภคสามารถประเมินตามความรู้สึกได้ถึงความใส่ใจที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ - ลดต้นทุนการโปรโมทแบรนด์สินค้าในระยะยาว
ยกตัวอย่างเบอร์โทรที่ใครๆ เห็นก็นึกออกว่าเป็นสินค้าชนิดไหน แบรนด์อะไร เช่น 1112 การลูกค้าสามารถจำเลขและนึกถึงสินค้าได้ทันที เปรียบเสมือนตัวเลขนั้นเป็นสื่อโฆษณาทางอ้อมให้กับธุรกิจ ที่ช่วยสร้างภาพจำให้กับลูกค้า - สามารถเก็บเป็น Asset ที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต
แน่นอนว่าไม่เฉพาะเบอร์โทรศัพท์สวยๆ ที่คนนิยมกัน มันยังรวมไปถึงเลขทะเบียนรถ ที่คนบางกลุ่มนิยมสะสมเอาไว้ ในระยะยาวตัวเลขเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ไม่ต่างอะไรกับพวก นาฬิกา หรือกระเป๋าเเบรนด์เนม - เบอร์สวยช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้า
ไม่ว่าจะเป็นเบอร์สวย วันที่สวย เวลาสวย ทั้งหมดนี้ สามารถดึงดูดความสนใจให้กับลูกค้าได้ และมันไม่เคยทำให้ผิดหวัง เช่น ตามแพลตฟอร์มช้อปปิ้งต่างๆ ที่มักจะตั้งวันเวลาโปรโมชั่นไม่ว่าจะ 8.8 หรือ 9.9 ยอดขายสำหรับโปรโมชั่นวันที่สวยๆ อาจมากกว่ายอดขายทั้งเดือนเลยก็ได้ และมันคือเหตุผลเดียวกันกับการเลือกเบอร์สวย ๆ สำหรับบริษัทต่างๆ ที่นอกจากจะจดจำได้ง่ายแล้ว มันยังดึงดูดความสนใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
เบอร์มงคล
เบอร์ที่มีตัวเลขที่เป็นมงคลต่อผู้ใช้งาน ทั้งในชีวิตประจำวันและในอนาคตของผู้ใช้งานเบอร์นั้นๆ ตัวอย่างเช่น
เบอร์มงคลตามความหมาย
- ศาสตร์ตัวเลขของคู่ตัวเลขจะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป เช่น
- เลข 15 -51 มีสติปัญญา เป็นที่รักใคร่ ผู้ใหญ่อุปถัมภ์
- เลข 16 -16 มีการวางแผน รอบคอบ รัดกุม
- เลข 19 -91 มีความแข็งแกร่ง เป็นผู้นำสูง มีชื่อเสียงโด่งดัง
- เลข 24-42 เมตตามหานิยม เป็นที่รักใคร่ เข้าสังคมได้ดี
- เลข 35-53 เน้นเรื่องอำนาจ บารมี
- เลข 45-54 ฉลาด รอบรู้ มีเหตุผล
- เลข 55 เน้นเรื่องสติ คุณธรรม ความสงบทางจิตใจ
- เลข 56-65 ความมั่งคั่งสมบูรณ์ในชีวิต การงาน การเงิน
- เลข 59-95 สุขภาพแข็งแรง ชีวิตสงบสุข
- เลข 99 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เหนือธรรมชาติ
- ผลรวมเลขทั้งหมด
ในบางศาสตร์เลขมงคล จะมีการรวมตัวเลขทั้งหมดในเบอร์โทรศัพท์ ทะเบียนรถ หรือกลุ่มเลขที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน โดยความหมายแต่ละผลรวม จะมีความคล้ายคลึงกับตัวเลขคู่มงคลด้านบนที่กล่าวมา เช่น - ผลรวมตัวเลข 14-41
มีความโดดเด่นเรื่องงาน การเจรจาต่อรอง ด้านการเงิน ผลรวมเลขนี้เหมาะกับนักพูด
หรืออาชีพเกี่ยวกับราชการ - ผลรวมตัวเลข 15-51
มีคนอุปถัมภ์ คอยให้การช่วยเหลือ เหมาะกับงานที่ต้องติดต่อผู้ใหญ่ และผลรวม 15 ยังส่งผลถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ และความรักอีกด้วย
ทั้งนี้กลุ่มผลรวมดีที่เป็นที่นิยมสูงสุด คือ 14 15 24 36 41 42 44 45 51 54 55 56 59 63 65
กลุ่มผลรวมรองลงมา 16 19 23 26 29 32 35 39 40 46 49 50 53 62 64
ทั้งนี้ยังผู้ใช้เลขมงคลหลายกลุ่ม หลายศาสตร์ ที่มิได้นำผลรวมมาพิจารณา เพราะเชื่อว่า คู่
ลำดับมงคลทั้งหลากหลายคู่ในหมายเลขโทรศัพท์เท่านั้นที่จะส่งผลต่อผู้ใช้ หากพิจารณา
หมายเลขที่มีคู่ลำดับไม่มงคลทั้งหมายเลข แต่กลับมีผลรวมตัวเลขที่ความหมายดี ซึ่งเป็นสิ่งที่
ขัดแย้งกัน - เจาะจงตามวันเกิดของผู้ใช้งาน
กลุ่มตัวเลขที่เหมาะกับผู้ที่มีวันเกิดในแต่ละวัน ยกตัวอย่างเช่น
- วันอาทิตย์ เลขมงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดอาทิตย์ คือ 2 4 5 6 และควรเลี่ยงตัวเลข 3 และ 7
- วันจันทร์ เลขมงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดจันทร์ คือ 2 4 5 6 และควรเลี่ยงตัวเลข 1 และ 8
- วันอังคาร เลขมงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดอังคาร คือ 3 5 6 8 และควรเลี่ยงตัวเลข0 1 และ 7
- วันพุธ เลขมงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดพุธ คือ 2 4 5 6 และควรเลี่ยงตัวเลข 3 และ 8
- วันพฤหัสบดี เลขมงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดวันพฤหัส คือ 1 3 5 6 และ 9 ตัวเลขที่ไม่ควรใช้คือ 7 และ 8
- วันศุกร์ เลขมงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดศุกร์ คือ 2 3 4 5 6 และควรเลี่ยงตัวเลข 7 และ 0
- วันเสาร์ เลขมงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดเสาร์ คือ 1 4 8 9 และควรเลี่ยงตัวเลข 2 และ 5
ประโยชน์ของเบอร์มงคลต่อธุรกิจ
- ตามความเชื่อที่เหมาะกับแต่ละสาขาอาชีพ – พลังของผลรวมตัวเลขที่เหมาะกับธุรกิจแต่ละประเภท
ตัวอย่างเช่น- อาชีพราชการ เลขที่เหมาะคือ 14 41 15 51 45 54 19 91 35 53
- อาชีพค้าขาย นักลงทุน เลขที่เหมาะคือ 22 23 24 26 29 32 36 46 56 66 96
- อาชีพเกี่ยวกับการพูด ขายตรง เลขที่เหมาะคือ 44 46 64 26 62
- อาชีพที่ต้องติดต่อประสานงาน เลขที่เหมาะคือ 14 41 24 42 26 62 46 64 47 74
- อาชีพครู อาจารย์ เลขที่เหมาะคือ 14 41 15 51 45 54 55 59 95
- เพิ่มความเชื่อมั่นต่อธุรกิจและลูกค้าผู้มาใช้บริการ
เบอร์มงคลอาจจะไม่ใช่แค่เป็นเรื่องมงคลเฉพาะเจ้าของธุรกิจเท่านั้น ลูกค้าบางกลุ่มที่มีความเชื่อเรื่องตัวเลข มักจะเลือกใช้บริการกับธุรกิจที่มีความเชื่อไปในทางเดียวกัน เจ้าของธุรกิจบางราย มีการเปลี่ยนเบอร์ติดต่อของพนักงานบริษัท ที่ต้องติดต่อลูกค้าให้เป็นเบอร์มงคลทั้งหมด เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อทั้งองค์กร - เบอร์มงคลจัดเป็น Asset ที่เพิ่มมูลค่าในระยะยาว
เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นเบอร์สวย หรือเบอร์มงคล สามารถเก็บเอาไว้เป็น Asset ที่มูลค่าของเบอร์นั้นจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
สำหรับเจ้าของธุรกิจ พ่อค้า แม่ค้า เจ้าของบริษัท ห้างร้านต่างๆ หากต้องการเปลี่ยนเบอร์มาใช้เบอร์สวย เบอร์มงคล สามารถเลือกซื้อได้ที่ ตลาดซิม (Taradsim) ร้านขายเบอร์มงคลเรามีทั้งเบอร์สวย และเบอร์มงคล หลากหลายศาสตร์ให้เลือกมากมายหลากหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็นเบอร์มงคล ais, เบอร์มงคล dtac, เบอร์มงคล true มากถึง 8,000 หมายเลข ในราคาที่สมเหตุสมผล
ต้องการหาซื้อเบอร์มงคล เลือกซื้อได้ที่ ตลาดซิม
Tel: 091-564-6365 (คุณวิท)
Line ID. Taradsim
Email: witaya_pk@hotmail.com